วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2554

ความรู้เรื่องธาตุอาหารพืช ธาตุเหล็ก


                                   ความรู้เรื่องธาตุอาหารพืช
                                                      Fe
. เหล็ก (Fe
              เหล็กเป็นจุลธาตุที่มีปริมาณมากที่สุดในดิน มีความสำคัญในการเจริญเติบโตของพืชไม่แพ้ธาตุอื่น ๆ เนื่องจากเหล็กมีบทบาทสำคัญในขบวนการสังเคราะห์ คลอโรฟิลล์ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเอนไซม์ เช่น คะตะเลสเฟอร์ออกซิเดส (catalase Peroxidase) และมีความสำคัญต่อขบวนการเปลี่ยนแปลงอาร์ เอ็น เอ ของคลอโรพลาสต์ (chloroplasts) โดยที่เหล็กในดินส่วนใหญ่จะอยู่ในสภาพของแร่ชนิดต่าง ๆ ดังนี้ ฮีมาไทต์ (Fe2O3) ไพไรต์ (FeS2) จาโรไซต์
[ K Fe2 (OH)6 (SO4)4 ]โอลิวีน (Mg , Fe)SiO4 และ ฮอร์นเบลนด์ [ (Na ,Ca)2(Mg ,Fe, Al)5 (Si , Al)8 O2 (OH)2 ] เมื่อแร่เหล็กชนิดต่าง ๆ ผุพังสลายโดยขบวนการต่าง ๆ ก็จะปลดปล่อยเหล็กออกมา ซึ่งจะมีปริมาณที่ต่ำกว่าเหล็กในดินที่อยู่ในรูปของอนินทรีย์ที่ละลายได้ เช่น เ ฟอริก (Fe3+) และ
เฟอร์รัสไฮดรอกไซด์ [ Fe (OH)2] พืชสามารถนำเหล็กไปใช้ประโยชน์ได้จะอยู่ในรูปเฟอรัส (Fe2+ )
ตารางที่ 9.3 ค่าวิเคราะห์ปริมาณของธาตุเหล็ก แมงกานีส สังกะสี และทองแดง ส่วนที่เป็น
ประโยชน์ต่อพืชของดินบางบริเวณของประเทศ (พีพีเอ็ม)

                                                                           รูปพืชที่แสดงอาการขาดธาตุเหล็ก
                          เฟอร์รัสไฮดรอกไซด์ [Fe (OH)2] พืชสามารถนำเหล็กไปใช้ประโยชน์ได้จะอยู่ในรูปเฟอรัส (Fe2+ ) ดินไร่ที่เป็นกรดเมื่อถูกน้ำขังหรือน้ำท่วมดินจะเกิดอยู่ในสภาพรีดักชัน (reduction) เฟอริกจะถูกเปลี่ยนไปอยู่ในรูปเฟอรัส ถ้าละลายออกมามากก็อาจทำให้เป็นพิษได้ ดินที่เป็นดินกรดหรือดินเปรี้ยว ทำให้เกิดปัญหามี เฟอรัสละลายออกมามากเกิดเป็นพิษต่อพืชได้ ส่วนดินไร่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี และดินประเภท ดินด่างจัด (calcarous soil) เหล็กจะอยู่ในสภาพที่ละลายยากทำให้ดินเกิดอาการขาดธาตุเหล็กได้
                         อาการของพืชที่ขาดธาตุเหล็ก ใบจะเป็นสีเหลืองอ่อน และสีขาว จะพบทั้งต้น ใบล่างจะมีจุดสีน้ำตาล เริ่มจากจุดยอดและกระจายไปทั่ว วิธีแก้ไขปัญหาพืชขาดธาตุเหล็ก โดยใส่เกลือของเหล็ก เช่น ไอร์ออนซัลเฟต (FeSO4 ) ลงไปในดิน หรือละลายน้ำฉีดสเปรย์ลงไปที่พืช หรือใช้สารประกอบเหล็กคีเลต (irom chelates) ซึ่งสามารถละลายน้ำ และฉีดให้แก่พืชโดยตรงได้แก่ ไอร์ออนอีดีทีเอ (Fe EDTA) และ ไอร์ออนดีทีพีเอ (Fe DTPA) ในกรณีที่พืชรับธาตุเหล็กมากเกินไป มักจะเกิดในข้างที่ปลูกในดินกรด ในส่วนใบแก่จะแสดงอาการเป็นสีเงิน (bronze)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น