การกลั่นน้ำมัน
ปิโตรเลียมไม่ว่าจะในรูปของน้ำมันดิบหรือก๊าซธรรมชาติล้วนมีสารประกอบไฮโดรคาร์บอนที่มีประโยชน์มากมาย
สารประกอบไฮโดรคาร์บอนแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการนำมาใช้ประโยชน์แตกต่างกัน
ด้วยเหตุนี้การแยกองค์ประกอบของไฮโดรคาร์บอนที่อยู่ในปิโตรเลียมออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมต่างๆ
ทั้งโดยกระบวนการกลั่นน้ำมัน
หรือการแยกก๊าซธรรมชาติถือได้ว่าเป็นการเพิ่มพูนมูลค่าของทรัพยากรปิโตรเลียม
กระบวนการกลั่นน้ำมันคือการแปรเปลี่ยนสภาพน้ำมันดิบเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปชนิดต่างๆตามความต้องการของตลาดและตามประเภทของการใช้ประโยชน์ที่แตกต่างกัน
ได้แก่ ก๊าซหุงต้ม น้ำมันเบนซิน น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันก๊าด น้ำมันดีเซล
น้ำมันเตา และยางมะตอย นอกจากนี้ยังใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตน้ำมันหล่อลื่น
จารบีและเคมีภัณฑ์ต่างๆ
กระบวนกลั่นน้ำมันแตกต่างกันออกไปแต่ละโรงกลั่นน้ำมันขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีของกระบวนการกลั่นของแต่ละแห่ง
รวมถึงคุณสมบัติของน้ำมันดิบที่นำมากลั่นและชนิดคุณภาพของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ต้องการ
ในประเทศไทยมีโรงกลั่นน้ำมันอยู่ที่จังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง
กระบวนการกลั่นน้ำมันประกอบด้วยกรรมวิธีที่สำคัญได้แก่ การแยก
การเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมี การปรับปรุงคุณภาพ และการผสม การแยก
คือการแยกส่วนประกอบทางกายภาพของน้ำมันดิบด้วยวิธีการกลั่นลำดับส่วน
โดยนำน้ำมันดิบมากลั่นในหอกลั่น
ซึ่งน้ำมันดิบจะถูกแยกออกเป็นน้ำมันสำเร็จรูปประเภทต่างๆตามช่วงจุดเดือดที่ต่างกัน
ก่อนนำน้ำมันดิบเข้าหอกลั่นต้องแยกน้ำและเกลือแร่ที่ปนอยู่ออก
หลังจากนั้นจึงส่งน้ำมันดิบผ่านเข้าไปในท่อเหล็กที่เรียงเป็นแถวอยู่ในเตาเผาซึ่งมีความร้อนประมาณ
340-385 องศาเซลเซียส
น้ำมันดิบที่ร้อนรวมทั้งไอร้อนจะไหลผ่านเข้าไปในหอกลั่นบรรยากาศ
ไอร้อนที่ลอยขึ้นไปเมื่อเย็นลงจะกลั่นตัว ควบแน่นเป็นของเหลวบนถาดที่เรียงกันเป็นชั้นหลายสิบชั้นภายในหอกลั่น
ไอร้อนจะกลั่นตัวเป็นของเหลวในถาดชั้นใดก็ได้
ขึ้นอยู่กับช่วงจุดเดือดของไฮโดรคาร์บอนในส่วนนั้นๆ
ชั้นบนสุดของหอกลั่นซึ่งมีอุณหภูมิต่ำสุด จะเป็นก๊าซหุงต้ม หรือ LPG ชั้นรองๆลงมาอุณหภูมิจะสูงขึ้น ซึ่งเป็นส่วนของน้ำมันเบนซิน
น้ำมันก๊าดและน้ำมันดีเซลตามลำดับ
ส่วนน้ำมันที่ก้นหอกลั่นหากนำไปผ่านกรรมวิธีอื่นๆ จะแยกเป็นน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน
ส่วนที่เหลือจะเป็นน้ำมันเตาและยางมะตอย ส่วนต่างๆของน้ำมันดิบที่แยกได้ เรียกว่า
ผลิตภัณฑ์กลั่นตรง การเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมี คือการทำให้โมเลกุลของน้ำมันหนักแตกตัวเป็นน้ำมันเบาด้วยความร้อน
หรือเปลี่ยนแปลงโมเลกุลของน้ำมันเบาให้เป็นน้ำมันหนักเลยทำให้แตกตัวด้วยสารเร่งปฏิกิริยาเพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างการใช้ผลิตภัณฑ์ของแต่ละประเภท
การปรับปรุงคุณภาพ หากผลิตภัณฑ์ที่ได้จากกรรมวิธีการกลั่นลำดับส่วน
และการเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมี
มีคุณภาพไม่เหมาะสมกับสภาพการใช้งานและความต้องการของตลาด
เนื่องมาจากอาจจะมีสิ่งไม่พึงประสงค์เจือปนอยู่ ได้แก่
กำมะถันหรือสารแปลกปลอมต่างๆ จำเป็นต้องขจัดออกด้วยวิธีการปรับปรุงคุณภาพ
ซึ่งนอกจากคุณภาพจะดีขึ้นแล้วยังช่วยให้น้ำมันมีสีที่ตรงตามมาตรฐานด้วย การผสม
คือการนำผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆที่ผ่านกระบวนการมาปรับปรุงหรือเติมสารตามสัดส่วนที่เหมาะสม
เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปตามมาตรฐานที่กำหนด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น