วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

การใส่ปุ๋ยสับปะรด


                          ธาตุอาหารที่จำเป็นและการใช้ปุ๋ยเคมีในสับปะรด   

           สับปะรดเป็นพืชที่ต้องการธาตุไนโตรเจน และโพแทสเซียมสูง  ถ้าขาดไนโตรเจนจะเริ่มแสดงอาการที่ ใบอ่อนจะมีสีเขียวจาง ๆ  แต่ใบแก่ยังคงมีสีเขียวเข้ม  ต่อมาใบที่งอกใหม่จะมีขอบสีแดง  แต่บัวใบสีเหลืองซีดถึงช่วงนี้แล้วต้องรีบแก้ไขโดยให้ปุ๋ยทันที มิฉะนั้นจะทำให้ผลผลิตลดลงมาก หน่อและตะเกียงจะไม่เกิดเลย  ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟตเป็นแหล่งไนโตรเจน  ที่หาได้ง่ายและราคาไม่แพงนัก
             ถ้าขาดโพแทสเซียม  ปลายใบจะไหม้  จะมีจุดไหม้ที่ใบแก่  ต่อมาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลและเหี่ยวแห้งไป  ผลมีขนาดเล็กสุกช้า และมีปริมาณกรดในเนื้อสับปะรดน้อยมาก  ธาตุโพแทสเซียมนี้ได้จากปุ๋ยโพแทสเซียมซัลเฟตเป็นส่วนใหญ่   ความต้องการธาตุฟอสฟอรัสในสับปะรด  นับว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับธาตุอาหารหลักทั้งสอง  เพราะส่วนใหญ่ในดินมีฟอสฟอรัสเพียงพออยู่แล้ว  แต่ถ้าในดินขาดธาตุฟอสฟอรัสแล้วจะทำให้ต้นไม่แข็งแรง  หน่อและตะเกียบจะลดจำนวนลงมาก  
              อาการขาดธาตุเหล็ก  เริ่มจากใบอ่อนมีสีซีดคล้ายขาดไนโตรเจนและมีรอยแต้มสีแดงขึ้นทั่วไป  มีสีน้ำตาลที่ปลายรากและไม่มีรากแขนงให้เห็น  ผลจะแก่เร็วขึ้น  แต่มีกรดในเนื้อต่ำ  การแก้ไขอาการขาดธาตุเหล็กนั้นโดยการใช้เหล็กซัลเฟตฉีดพ่นในอัตรา 1-3 ในบริเวณที่มีแมงกานีสสูงหรือในดินที่มีระดับความเป็นกรด-ด่างที่สูงกว่า 5.8  จะพบอาการขาดธาตุเหล็กอยู่เสมอในดินทรายที่มีอินทรียวัตถุต่ำจะพบอาการขาดธาตุทองแดง และสังกะสีอาการปรากฏคือที่ยอดของใบอ่อน จะบิด เบี้ยวใบจะแคบ และมีสีเหลืองอ่อนความ ทนทานของผล ต่อแสงแดดจะลดลง  ทำให้ผิวเปลือกไหม้เกรียมเป็นหย่อม ๆ  แก้ไขโดยใช้สังกะสีซัลเฟตและทองแดงซัลเฟตในรูปสารละลายฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้นและใบ   ปุ๋ยที่จะใส่ให้สับปะรดนับเป็นปัจจัยสำคัญในการควบคุมความเป็นกรด-ด่างของดิน  การใช้ปุ๋ยเคมีในรูปแคลเซียมจะมีส่วนเพิ่มความเป็นด่าง  ในขณะเดียวกันการใช้ปุ๋ยเคมีที่อยู่ในรูปซัลเฟตจะเพิ่มความเป็นกรดในดิน  การให้ปุ๋ยสับปะรดนั้นผู้ปลูกแต่ละรายก็ใช้ปุ๋ยแตกต่างกันไป  เนื่องจากสภาพดิน และปัจจัยอื่น ๆ  ส่วนใหญ่จะใช้ปุ๋ย 3-4 ครั้งต่อรุ่น  ปุ๋ยที่ใช้มากคือ ปุ๋ยไนโตรเจนและปุ๋ยผสมสูตรต่าง ๆ  เช่น  12-4-18+ธาตุอาหารเสริม  
                 ปุ๋ยสำหรับสับปะรด  กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำการใส่ปุ๋ยดังนี้ คือ  
                                                             สับปะรดรุ่นแรก  
             ครั้งที่ 1  ก่อนปลูกใส่ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอก ตันผสมปุ๋ยหินฟอสเฟตสูตร 0-3-0 อัตรา 50-100 กิโลกรัมต่อไร่   โรยเป็นแถวหลังไถแปรตามแนวร่องปลูกเพื่อปรับปรุงดินสำหรับกระตุ้นการออกราก  
            ครั้งที่2 หลังปลูก1-2 เดือนหรือระยะเริ่มออกรากใส่ปุ๋ยสูตรที่มีสัดส่วนไนโตรเจนสูง  เช่น  สูตร 21-0-0 หรือ 16-20-0 อัตรา 7-10 กรัมต่อต้น  ใส่ดินโคนต้นฝังหรือกลบปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอกในขณะดินมีความชื้นเพียงพอ  
             ครั้งที่ 3  หลังปลูก 4-6 เดือน  ใส่ปุ๋ยครบสูตรที่มีสัดส่วนโพแทสเซียมสูง 3:1:4  เช่นสูตร 12-4-18+ธาตุอาหารเสริม, 15-5-20, 13-13-21 หรือสูตรใกล้เคียง  ซึ่งไนโตรเจนไม่ควรเกิน 15%  ป้องกันสารไนเตรทตกค้างอัตรา 10 กรัมต่อต้น  ใส่บริเวณกาบใบล่างในขณะกาบใบมีน้ำเพียงพอที่จะละลายปุ๋ย  
              ครั้งที่4  ก่อนบังคับผล1-2 เดือน  ให้ธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริมได้แก่ แคลเซียม โบรอน โดยฉีดพ่นเข้าทางใบ  
             ครั้งที่ 5  หลังบังคับผลประมาณ เดือน  ใส่ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ (0-0-60) หรือโพแทสเซียมซัลเฟต (0-0-50) อัตรา 7-10 กรัมต่อต้น  ใส่บริเวณกาบใบล่างในขณะกาบใบมีน้ำเพียงพอที่จะละลายปุ๋ย  
                                                 สับปะรดที่ไว้หน่อ(หลังเก็บผลรุ่นแรก)  
หลังจากเก็บเกี่ยวประมาณ 1 เดือน  ใส่ปุ๋ยสูตร 21-0-0 หรือ 16-20-0 บริเวณกาบใบล่างอัตรา 10กรัมต่อต้น  เพื่อบำรุงต้นตอและเร่งหน่อ  
ระยะดูแลรักษาต้นตอจนถึงระยะบังคับผล และระยะเก็บเกี่ยวใส่สูตรและอัตราเดียวกับต้นรุ่นแรก (ครั้งที่ 3-5)  ถ้ามีฝนให้ใส่ที่กาบใบหน้าแล้งอาจใช้วิธีฉีดพ่นทางใบ  

                   

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น