ร่างกายมีความต้องการปริมาณของวิตามินเอจำนวน 800 ไมโครกรัม เพื่อไปช่วยเสริมบำรุงในเรื่องของการมองเห็น สายตา กระดูก ฟัน เหงือก หรือแม้แต่ในเรื่องการอักเสบของผิว จุดด่างดำ โรคเกี่ยวกับไทรอยด์ รวมถึงระบบทางเดินหายใจ วิตามินเอ ก็มีส่วนช่วยเสริมบำรุงได้เช่นกัน สำหรับอาหารที่มีวิตามินเอเป็นองค์ประกอบนั้น มีอยู่หลายชนิดเลยล่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ไข่ นม ตับ ผลไม้ที่มีสีส้ม แดง เช่น มะละกอสุก กระเจี๊ยบ นอกจากนี้หากรู้สึกว่าร่างกายได้รับวิตามินเอไม่เพียงพอจากการรับประทานอาหารในแต่ละวัน ก็สามารถรับประทานอาหารเสริมเป็นตัวช่วยได้นะคะ
2.วิตามินบี 1
ร่างกายมีความต้องการวิตามินบี 1 ในปริมาณ 1.5 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมีมากในอาหารจำพวก ข้าวซ้อมมือ เนื้อหมู ถั่ว ตับ รำข้าว ประโยชน์สำคัญของวิตามินบี 1 คือ ช่วยให้ระบบประสาททำงานสัมพันธ์กัน ป้องกันโรคเหน็บชา และเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจให้ทำงานได้ดีขึ้น
3.วิตามินบี 2
ร่างกายมีความต้องการวิตามินบี 2 ในปริมาณ 1.7 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมีมากในอาหารประเภท เนื้อปลา นมเปรี้ยว ผักใบเขียว เป็นต้น ประโยชน์ของวิตามินบี 2 คือ ช่วยให้ผมและเล็บแข็งแรง ป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยให้ผิวไม่แห้งแตกและช่วยให้การเจริญเติบโตในเด็กมีพัฒนาการที่ดีขึ้น
4.วิตามินบี 6
ร่างกายมีความต้องการวิตามินบี 6 ในปริมาณ 2 มิลลิกรัม ซึ่งมีมากในอาหารประเภทจำพวกอกไก่งวง ปลาทูน่า เมล็ดทานตะวัน อกไก่ อะโวคาโด้ ลูกพรุนแห้ง เนื้อวัวไม่ติดมัน กล้วย ผักโขม เป็นต้น ประโยชน์ของวิตามินบี 6 ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ ในร่างกาย ช่วยสร้างกรดอะมิโน สร้างโปรตีนและการทำงานของเซลล์ ช่วยสร้างฮีโมโกบิลและสารที่จำเป็นในการสื่อสารทางประสาท
5.วิตามินบี 12
วิตามินบี 12 มีความสำคัญต่อร่างกายเช่นกัน เพราะร่างกายมีความต้องการในปริมาณ 2 ไมโครกรัมต่อวัน ในหนึ่งวันเราจำเป็นต้องทานอาหารจำพวก หอยประเภทต่างๆ ปลาทะเลน้ำลึก เนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เนื้อหมู นม โยเกิร์ตและเนยแข็ง ประโยชน์ของอาหารที่ประกอบไปด้วยวิตามินบี 6 คือ ช่วยสำหรับผู้มีปัญหาเรื่องโลหิตจาง เหนื่อยง่าย มีอาการชานิ้วมือนิ้วเท้า เป็นต้น
6.วิตามินซี
วิตามินซีคืออีกสิ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย ร่างกายควรได้รับในปริมาณ 60 มิลลิกรัมต่อวัน อาหารที่ประกอบด้วยวิตามินซี คือ อาหารจำพวกผักและผลไม้ เช่น ผักชี ผักคะน้า ผักบุ้ง กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ใบมะระ มะนาว ส้ม มะละกอ ส้มโอ สตอเบอร์รี่ เป็นต้น วิตามินซีมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายโดยเฉพาะ เป็นสารต่อต้านมะเร็ง บำรุงสายตา ป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ช่วยบำรุงธาตุในอาหาร ทำให้เจริญอาหาร
7.วิตามินดี
ร่างกายมีความต้องการวิตามินดีในปริมาณ 5 ไมโครกรัมต่อวัน เพราะฉะนั้นเราควรเลือกรับประทานอาหารจำพวก น้ำมันตับปลา ไข่แดง เนื้อไก่ เห็ดหรือชีส เป็นต้น นอกจากนี้ร่างกายของเรายังสามารถสังเคราะห์ขึ้นเองโดยใช้ตัวกระตุ้นอย่างแสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้า ส่วนประโยชน์ของวิตามินดีที่มีผลต่อร่างกายนั้น จะช่วยเสริมระบบการทำงานของสมองให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ไม่หลงลืมง่าย แถมยังช่วยลดภาวะอาการซึมเศร้าต่างๆ ได้ดีอีกด้วย
8.วิตามินอี
ร่างกายมีความต้องการวิตามินอีในปริมาณ 10 มิลลิกรัมต่อวัน ในหนึ่งวันเราจะต้องรับประทานอาหารจำพวก อัลมอนด์ บล็อกโคลี น้ำมันคาโนล่า กีวี่ มะม่วง ผักโขม เมล็ดทานตะวัน มะเขือเทศ เป็นต้น คุณประโยชน์ของวิตามินอีคือ ป้องกันการถูกทำลายของสารอนุมูลอิสระ ป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือดตามผนังร่างกาย เพราะฉะนั้นเราควรรับประทานวิตามินอีในปริมาณที่พอเหมาะใน 1 วัน
9.วิตามินเค
ร่างกายมีความต้องการวิตามินเคในปริมาณ 80 ไมโครกรัมต่อวัน อาหารที่ประกอบด้วยวิตามินเคคืออาหารจำพวก ถั่วเหลือง ต้นหอม น้ำมันมะกอก หน่อไม้ฝรั่ง พริกผง แตงกวา ใบโหระพา ผลิตภัณฑ์นม ประโยชน์ต่างๆ ของวิตามินเค คือ ป้องกันการตกเลือด ช่วยให้แผลหายเร็ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น