วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การเพิ่มปริมาณอสุจิ


วิธีการเพิ่มปริมาณการสร้างตัวอสุจิและน้ำอสุจิก็คือ ต้องเพิ่มปริมาณฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนในร่างกายรวมทั้งได้รับสารอาหารและเกลือแร่ที่จำเป็นในการผลิตตัวอสุจิ ซึ่งได้แก่แร่ธาตุสังกะสี และสารอาหารจำพวกเบต้าแคโรทีนในปริมาณที่เพียงพอต่อการสร้างน้ำอสุจิที่มีปริมาณมากพอ

สามารถเพิ่มฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรนได้โดยการเข้านอนแต่หัวค่ำ เพราะฮอร์โมนเพศชายส่วนใหญ่แล้วจะถูกผลิตขึ้นในช่วงเวลากลางคืนขณะที่นอนหลับ ใครที่นอนหลับสนิทตอนกลางคืนได้นานกว่า จะมีปริมาณฮอร์โมนเพศชายมากกว่า การนอนพักผ่อนในช่วงเวลากลางวันอาจจะช่วยให้หายอ่อนเพลียแต่ไม่ช่วยในการสร้างตัวอสุจิ

นอกจากนี้ต้องหัดรับประทานอาหารทะเลบ้าง โดยเฉพาะพวกหอยที่จะมีแร่ธาตุสังกะสีสูง รวมทั้งในพวกเนื้อและตับก็มีมากพอควร หรือจะหาซื้อไวตามินเกลือแร่มาบำรุงแทนก็ได้ ร่างกายต้องการแร่ธาตุสังกะสีวันละประมาณ 15-25 มิลลิกรัม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างน้ำอสุจิ

การฝึกกายบริหารกล้ามเนื้อของอุ้งเชิงกรานโดยการขมิบก้นนานครั้งละประมาณ 10 วินาที สักวันละ 100 ครั้ง ก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่บีบน้ำอสุจิออกมาแข็งแรงขึ้นก็จะทำให้น้ำอสุจิพุ่งออกมาได้แรงขึ้นด้วยในอีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ยังอาจมีส่วนช่วยในการลดการหลั่งเร็ว ซึ่งเป็นปัญหาของหนุ่มๆ ได้อีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วิธีดูน้ำผึ้งแท้หรือปลอม


น้ำผึ้ง (Honey) เป็นอาหารยอดนิยมชนิดหนึ่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย และด้วยความนิยมอย่างสูงและมีราคาแพงนี่เองจึงทำให้มีผู้ทำน้ำผึ้งปลอมหรือน้ำผึ้งผสมออกมาขายมากมาย จนผู้บริโภคขาดความมั่นใจในการซื้อน้ำผึ้ง ยิ่งผู้ซื้อที่ขาดความรู้ในวิธีการทดสอบน้ำผึ้งด้วยแล้ว แทบจะเลิกกินน้ำผึ้งกันไปเลย วันนี้เราได้รวบรวมวิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้และวิธีดูน้ำผึ้งแท้มาให้ท่านได้ใช้งานกันแล้วครับ ^ ^

น้ำผึ้งแท้ได้มาจากน้ำหวานจากเกสรดอกไม้
วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้ มีวิธีทำอย่างไรบ้าง
วิธีการทดสอบน้ำผึ้งแท้นั้นมีวิธีการทดสอบกันมากมายหลายวิธี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับท่านว่าสามารถทดสอบวิธีไหนได้บ้าง ดังนี้…
1. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการติดไฟ
วิธีทดสอบนี้ทำได้โดยนำไม่ขีดไฟมาจุ่มลงในน้ำผึ้ง แล้วเอามาขีดกับข้างกล่อง (ข้างกลัก) ไม้ขีด ถ้าสามารถขีดติดไฟได้ แสดงว่าเป็นน้ำผึ้งแท้ แต่ถ้าขีดไม่ติด หัวไม้ขีดไฟเปื่อยยุ่ยแสดงว่าเป็นน้ำผึ้งปลอม หรือน้ำผึ้งผสมน้ำตาล
2. การทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการหยดบนกระดาษทิชชู่
วิธีเช็คน้ำผึ้งด้วยวิธีนี้ ทำได้โดยการนำน้ำผึ้งที่ต้องการทดสอบหยดลงบนกระดาษทิชชู่ ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้เมื่อหยดแล้วน้ำผึ้งนั้นจะคงรูปอยู่บนผิวทิชชู่ ไม่ซึมลงไปในเยื่อกระดาษ แต่ถ้าเป็นน้ำผึ้งปลอมหรือผสม น้ำผึ้งจะซึมลงกระดาษทิชชู่ทันทีที่หยดลงไป
3. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้ด้วยปูนแดง
วิธีนี้เป็นการทดสอบน้ำผึ้งด้วยด้วยปูนแดงหรือปูนกินหมาก วิธีการก็คือ เทน้ำผึ้งลงในฝ่ามือจากนั้นเทปูนแดงตามลงไป จากนั้นคนให้เข้ากัน ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้จะรู้สึกร้อนที่ฝ่ามือทันที แต่ถ้าเป็นของปลอมจะไม่รู้สึกอะไรเลย
4. การทดสอบน้ำผึ้งด้วยการดม
วิธีตรวจสอบน้ำผึ้งแท้แบบนี้จะใช้วิธีการดม ซึ่งน้ำผึ้งแท้จะมีกลิ่นเฉพาะตัว คือมีกลิ่นหอมของน้ำหวานดอกไม้ผสมกับกลิ่นของรวงและไขมันผึ้งชัดเจน ในขณะที่น้ำผึ้งผสมหรือน้ำผึ้งปลอมจะมีกลิ่นน้อยมากหรือไม่มีเลย
5. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการแช่ตู้เย็น
วิธีการดูน้ำผึ้งแท้แบบนี้ทดสอบได้ง่ายมาก เพียงนำน้ำผึ้งไปใส่ในช่องแช่แข็งของตู้เย็น ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้จะไม่จับตัวแข็งเป็นก้อน แต่จะมีรูปร่างลักษณะเหมือนเดิมทุกประการ ในขณะที่ของปลอมจะจับตัวแข็งเหมือนนำน้ำหรือน้ำเชื่อมไปแช่นั่นเอง


น้ำผึ้งบรรจุขวดวางขายในประเทศสหรัฐอเมริกา
6. การทดสอบน้ำผึ้งโดยการเก็บ
น้ำผึ้งแท้นั้นเมื่อถูกเก็บไว้นานๆจะมีสีคล้ำขึ้น แต่รสชาติและลักษณะอื่นจะยังคงเหมือนเดิมทุกประการ ในขณะที่ของปลอมจะเกิดการแยกชั้นของน้ำผึ้งและน้ำตาลอย่างชัดเจน กลิ่น สีและรสชาติก็เปลี่ยนไปด้วย การทดสอบน้ำผึ้งแท้วิธีนี้ทำได้ง่ายมาก
7. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการเขย่า
วิธีนี้นิยมใช้ทดสอบน้ำผึ้งที่ใส่ขวดขาย ให้จับขวดให้แน่นและเขย่าอย่างแรงหลายๆครั้ง ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้ซึ่งมีความหนืดสูง จะเกิดฟองอากาศขนาดใหญ่และไม่เกิดการแยกชั้นของของเหลวในขวด ในขณะที่น้ำผึ้งผสมหรือน้ำผึ้งปลอมจะเกิดฟองอากาศขนาดเล็กและเกิดการแยกชั้นของน้ำผึ้งและน้ำตาล
8. การทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการชิม
วิธีการตรวจสอบน้ำผึ้งแบบนี้จะเห็นผลชัดเจนเวลาเราเหนื่อยหรืออ่อนเพลีย ให้กินน้ำผึ้งประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ เมื่อผ่านไปประมาณ 20 นาที ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้ เราจะรู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย มีแรง หายอ่อนเพลีย แต่ถ้าเป็นของปลอมเราจะไม่รู้สึกเช่นนี้เลย
9. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้โดยการหยดลงในน้ำเย็น
วิธีดูน้ำผึ้งแท้แบบนี้ทำได้ไม่ยาก เพียงนำน้ำเย็นจากตู้เย็นมาใส่แก้ว จากนั้นหยดน้ำผึ้งลงไป ถ้าเป็นน้ำผึ้งแท้ หยดน้ำผึ้งนั้นจะจับตัวเป็นหยดและตกลงไปยังก้นแก้วก่อนจะค่อยๆลอยกลับขึ้นมา แต่ถ้าเป็นน้ำผึ้งผสมหรือน้ำผึ้งปลอม เมื่อหยดลงในน้ำเย็นก็จะเกิดการแตกตัวหรือแตกกระจายในน้ำทันที
10. การทดสอบน้ำผึ้งแท้ด้วยลักษณะทางกายภาพ
วิธีการดูน้ำผึ้งแท้วิธีนี้ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ น้ำผึ้งแท้จะมีสีใส มีความหนืดสูง ไหลช้าไม่ว่าจะอากาศร้อนหรือหนาว มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม
11. วิธีทดสอบน้ำผึ้งแท้ด้วยห้องทดลอง
วิธีนี้ชาวบ้านอย่างเราๆคงไม่ได้ใช้ แต่จะใช้กับหน่วยงานของรัฐที่ให้การรับรองน้ำผึ้งแท้ วิธีนี้จะใช้การวิเคราะห์องค์ประกอบของน้ำผึ้งโดยละเอียด ซึ่งจะทราบผลได้ 100% ว่าเป็นน้ำผึ้งแท้หรือไม่

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

โรคกระเพาะ

  1. โรคกระเพาะ

โรคที่นับวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคนทำงานที่มักจะทานข้าวไม่ตรงเวลาหรือไม่มีเวลาทานข้าว ซึ่งเกิดจากในขณะที่ร่างกายมีนาฬิกาชีวภาพอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาที่น้ำย่อยทำงานกลับไม่มีอาหารตกถึงท้อง ทำให้น้ำย่อยโจมตีเยื่อบุกระเพาะแทน เป็นสาเหตุทำให้คนที่ทานข้าวไม่ตรงเวลามักปวดท้องเนื่องจากท้องว่างนั่นเอง !
          เช็กอาการปวดท้อง แบบไหนใช่โรคกระเพาะ …
          - แผลที่เกิดในลำไส้เล็กส่วนต้น จะมีอาการปวดท้องบริเวณท้องด้านขวาส่วนบน เวลาหิว จะหิวบ่อย

          - แผลที่เกิดในกระเพาะอาหารโดยตรง จะมีอาการปวดท้องเวลาอิ่ม จะรู้สึกแสบๆ เจ็บๆ บริเวณยอดอกหรือลิ้นปี่
          - ถ้าร้ายแรง อาจทำให้ปวดท้องอย่างหนัก อาเจียนและมีอาการถ่ายเป็นเลือดร่วมด้วย
          ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม บอกลาโรคกระเพาะ …
          - ผ่อนคลายจิตใจ ด้านความเครียด ความกังวลต่างๆ เพราะนั่นมีผลต่อการกระตุ้นให้กระเพาะสร้างกรดเพิ่มขึ้น มากกว่าปกติ
          - หมั่นออกกำลังกาย ให้กล้ามเนื้อท้องผ่อนคลาย แข็งแรง กระเพาะอาหารก็จะแข็งแรงไปด้วย
          - จัดสรรเวลาการทำงาน หมั่นทานอาหารให้เป็นเวลาและสม่ำเสมอ (ฝึกทานให้เป็นอุปนิสัย)

ปวดท้องคิดว่าเป็นอะไร

ปวดท้องคิดว่าเป็นอะไร

1. ชายโครงขวา คือตับและถุงน้ำดี
อาการที่พบมักจะกดแล้วเจอก้อนแข็งร่วมกับอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ซึ่งสันนิษฐานเบื้องต้นได้ว่า อาจเป็นโรคเกี่ยวกับตับหรือถุงน้ำดี เช่น ตับอักเสบ ฝีในตับ ถุงน้ำดีอักเสบ


2. ใต้ลิ้นปี่คือ กระเพาะอาหาร ตับอ่อน ตับ และกระดูกลิ้นปี่
-ปวดเป็นประจำเวลาหิวหรืออิ่ม อาจเป็นโรคเกี่ยวกับกระเพาะ
-ปวดรุนแรงร่วมกับคลื่นไส้อาเจียน อาจเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ
-คลำเจอก้อนเนื้อค่อนข้างแข็งและมีขนาดใหญ่ อาจหมายถึงตับโต
-คลำได้ก้อนสามเหลี่ยมแบนเล็กๆ มักเป็นกระดูกลิ้นปี่


3. ชายโครงขวาคือ ม้าม ซึ่งมักจะคลำเจอก้อนเนื้อบริเวณนี้

4. บั้นเอวขวาคือท่อไต ไต ลำไส้ใหญ่
-ปวดร่วมกับถ่ายอุจจาระผิดปกติหรือถ่ายเป็นเลือด อาจเป็นเพราะลำไส้ใหญ่อักเสบ
-ปวดร้าวถึงต้นขา อาจเป็นนิ่วในท่อไต
-ปวดร่วมกับปวดหลัง มีไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่น อาจเป็นกรวยไตอักเสบ
-คลำเจอก้อนเนื้อ อาจเป็นไตโตผิดปกติหรือเนื้องอกในลำไส้ใหญ่

5. รอบสะดือคือ ลำไส้เล็ก
มักพบในโรคท้องเดินหรือไส้ติ่งอักเสบ(ก่อนจะย้ายมาปวดท้องน้อยขวา) แต่ถ้าปวดแบบมีลมในท้อง ก็อาจเป็นเพราะกระเพาะลำไส้ทำงานผิดปกติ


6. บั้นเอวซ้ายคือ ท่อไต ไต ลำไส้ใหญ่(เหมือนข้อ 4)

7. ท้องน้อยขวาคือ ไส้ติ่ง ท่อไต และปีกมดลูก
-ปวดเกร็งเป็นระยะร้าวมาที่ต้นขา อาจเป็นเพราะมีก้อนนิ่วในกรวยไต
-ปวดเสียดตลอดเวลา กดแล้วเจ็บมาก มักเป็นไส้ติ่งอักเสบ
-ปวดร่วมกับมีไข้สูง หนาวสั่น มีตกขาว มักเป็นเพราะปีกมดลูกอักเสบ
-คลำแล้วเจอก้อนเนื้อ อาจเป็นก้อนไส้ติ่งหรือรังไข่ผิดปกติ

8. ท้องน้อยคือ กระเพาะปัสสาวะและมดลูก
-ปวดเวลาถ่ายปัสสาวะหรือถ่ายกะปริดกะปรอย มักเป็นเพราะกระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
-ปวดเกร็งเวลามีประจำเดือน เป็นอาการปวดประจำเดือน แต่ในรายที่ปวดเรื้อรังในหญิงแต่งงานแล้วไม่มีบุตร อาจเป็นเนื้องอกในมดลูก


9. ท้องน้อยซ้ายคือ ปีกมดลูกและท่อไต
-ปวดเกร็งเป็นระยะและร้าวมาที่ต้นขา มักเป็นนิ่วในท่อไต
-ปวดร่วมกับมีไข้ หนาวสั่น ตกขาว เป็นเพราะมดลูกอักเสบ
-ปวดร่วมกับถ่ายอุจจาระผิดปกติ อาจเป็นเพราะลำไส้ใหญ่อักเสบ
-คลำพบก้อนร่วมกับอาการท้องผูกเป็นประจำ อาจเป็นเนื้องอกในลำไส้

วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

ปุ๋ยคอมปาวน์กับปุ๋ยเบ้าเบลนด์

ปุ๋ยเม็ดคือ...

ปุ๋ยเม็ดนี้คือ ปุ๋ยที่ใช้ใส่ทางดินทั้งหลายหละครับ เลยเรียกกันง่ายๆว่า "ปุ๋ยเม็ด"

ปุ๋ยเม็ดนั้นแบ่งออกเป็นสองแบบใหญ่เลย
1.ปุ๋ยคอมปาวน์ (Compound) คือปุ๋ยที่ทุกเม็ดมีธาตุอาหารเท่ากันทั้งหมด

2.ปุ๋ยเบ้าเบลนด์(Bulk Blend Fertilizer)หรือปุ๋ยผสม คือปุ๋ยที่เกิดจากการนำแม่ปุ๋ยมาผสมกันเพื่อให้เกิดสูตรตามต้องการ

วิธีสังเกตความแตกต่างของทั้งสองชนิด
คือดูจากลักษณะของเม็ดปุ๋ยนั้น ถ้าเป็นปุ๋ยคอมปาวน์นั้นเม็ดจะกลมเท่ากันทุกเม็ดและเป็นสีเดียวกันทั้งหมด แต่ถ้าเป็นปุ๋ยเบ้าเบลนด์นั้นแต่ละเม็ดจะมีขนาดไม่เท่ากันโดยจะขึ้นอยู่กับแต่ละสูตร และสีอาจจะมีปะปนกันหลายๆสี แต่บางครั้งอาจจะมีการย้อมสีให้ดูสวยงาม

วันอังคารที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2558

ประโยชน์ของสับปะรด


                                            คุณค่าทางโภชนาการของสับปะรด ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 50 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 13.12 กรัม
น้ำตาล 9.85 กรัม
เส้นใย 1.4 กรัม
ไขมัน 0.12 กรัม
โปรตีน 0.54 กรัม
วิตามินบี1 0.079 มิลลิกรัม 7%
วิตามินบี2 0.032 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี3 0.5 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี5 0.213 มิลลิกรัม 4%
วิตามินบี6 0.112 มิลลิกรัม 9%
วิตามินบี9 18 ไมโครกรัม 5%
โคลีน 5.5 มิลลิกรัม 1%
วิตามินซี 47.8 มิลลิกรัม 58%
ธาตุแคลเซียม 13 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 0.29 มิลลิกรัม 2%
ธาตุแมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม 3%
ธาตุแมงกานีส 0.927 มิลลิกรัม 44%
ธาตุฟอสฟอรัส 8 มิลลิกรัม 1%
ธาตุโพแทสเซียม 109 มิลลิกรัม 2%
ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.12 มิลลิกรัม 1%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient
database)

                                                      ประโยชน์ของสับปะรด
ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ
ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและความแก่ชรา
เป็นผลไม้ที่เมื่อรับประทานแล้วจะรู้สึกสบายท้องไม่รู้สึกอึดอัด ดื่มน้ำสับปะรดปั่นกันดีกว่า
ใช้นำมารับประทานเป็นผลไม้ หรือนำมาปรุงเป็นอาหาร เช่น แกงสับปะรด เป็นต้น
นำมาใช้แปรรูปเป็นสับปะรดกระป๋อง ทำเป็นสับปะรดกวนก็ได้
การแปรรูปสับปะรดอื่นๆ เช่น การทําไวน์สับปะรด แยมสับปะรด เป็นต้น
ช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็ง
ช่วยบรรเทาและรักษาอาการหวัดได้
ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้ดีมากขึ้น
ช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง ป้องกันไม่ให้เกิดโรคเหงือก
สับปะรด สรรพคุณ ช่วยบรรเทาอาการร้อนกระสับกระส่าย หิวน้ำ
ช่วยแก้อาการท้องผูก ขับถ่ายไม่สะดวก
ช่วยในการย่อยอาหารจำพวกโปรตีน
ช่วยลดเสมหะในลำคอได้
ช่วยในการขับปัสสาวะ ปัสสาวะไม่ออก
ช่วยรักษาโรคนิ่ว
ช่วยรักษาโรคไตอักเสบ
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ
ช่วยบรรเทาอาการของโรคบิด
เชื่อว่าช่วยรักษาและบรรเทาอาการของโรคนิ้วล็อก (Trigger Finger)
ช่วยรักษาอาการบวมน้ำ

พายสับปะรด Pineapple Pie
ช่วยรักษาอาการแผลเป็นหนอง
ช่วยแก้ปัญหาส้นเท้าแตก
ช่วยลดการอักเสบจากบาดแผล
เป็นยารักษาโรคผิวหนัง
ใบสด นำมาใช้เป็นยาถ่าย หรือยาฆ่าพยาธิ ได้
ผลดิบสามารถนำมาใช้ห้ามเลือดได้
ผลดิบสับปะรด ช่วยขับประจําเดือน
ส่วนของรากสับปะรด นำมาใช้เป็นยาแก้กระษัย บำรุงไตได้
หนามของสับปะรด ช่วยแก้พิษฝีต่างๆได้

วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2558

HD คืออะไร

HD คืออะไร

HD คืออะไร
HD ย่อมาจากคำว่า High-Definition นั้น เป็นรูปแบบหรือมาตรฐานใหม่สำหรับการส่งสัญญาณภาพที่มีความละเอียดสูงในระดับ 720p/1080p/1080i ซึ่งให้ภาพที่คมชัดและมีรายละเอียดสูงกว่าดีวีดีทั่วไป ระบบการส่งสัญญาณภาพแบบ HD ในระดับ 1080p จำเป็นต้องใช้สายแบบ HDMI เท่านั้น ส่วนสาย Component ทั่วไปจะรองรับเฉพาะที่ความละเอียด 720p และ 1080i เท่านั้น ส่วน HDTV หมายถึง TV ที่รองรับความละเอียดระดับ Hi-Def ให้ภาพคมชัดมากมากกว่าปกติ

การทำงานของ HD
สัญญาณดิจิตอลที่ส่งมาที่ TV นั้นจะผ่านกระบวนการบีบอัดข้อมูลสัญญาณดิจิตอล โดย MPEG-2 ทำการถอดรหัส หลังจากนั้นจะถูกส่งไปที่หลอดภาพทำหน้าที่ยิงลำแสงออกมายังหน้าจอ TV ทำให้เกิด Pixel (จุดภาพ) บนจอภาพแต่ในระบบ HD นั้นจะให้ Pixel ที่สูงกว่า TV ทั่วไปมากเลยทีเดียวทำให้ภาพที่ออกมาละเอียดคมชัด ไร้ซึ่งอาการกระพริบของสัญญาณภาพ

1080i VS 1080p




Interlaced (i) จะทำการแบ่งภาพออกเป็น 2 เฟรม คือเฟรมที่เป็นเลขคี่และเลขคู่ และจะ scan ภาพสลับกันไปเรื่อยๆ จนครบ 1080 เส้น จะมีการกระพริบระหว่างการสลับเฟรมคี่และคู่

Progressives scan (p) จะทำการ scan โดยเรียงไปทีละเส้นสแกนเรียงกันไปเรื่อยๆจนครบ 1080 เส้น จะทำให้การกระพริบน้อยลง ภาพที่ได้จะดูนิ่งมากยิ่งขึ้น

การ Scan ภาพในรูปแบบของ HDTV นี้จะเป็นแบบ wide screen ที่มีอัตราส่วนของจออยู่ที่ 16:9 ต่างจาก TV รุ่นเก่าจะที่เป็น NTSC หรือ PAL อัตราส่วนจะอยู่ที่ 4:3

ตัวอย่างความละเอียดของภาพ



480p = 338,000 pixels / frame (704 x 480)
720p = 922,000 pixels / frame (1280 x 720)
1080i = 1,037,000 pixels / frame (1920 x 1080)
1080p = 2,074,000 pixels / frame (1920 x 1080)
ปกติสำหรับการเลือก HDTV จะต้องเป็นคุณภาพระดับจำนวนเส้น 1080 เส้น จะเห็นได้ว่า ความละเอียดของภาพที่ 1080p (Progressive Scan) จะไห้ความละเอียดสูงถึง 2,074,000 pixels ซึ่งดีที่สุด
HDMI ย่อมาจาก High-Definition Multimedia Interface หมายถึงการเชื่อมต่อโดยส่งข้อมูลแบบ Multimedia เช่น ข้อมูลภาพและเสียง เป็นต้น ในรูปแบบที่มีความละเอียดสูง และไม่มีการบีบอัดข้อมูล ทำให้ผลรับที่ได้มีคุณภาพที่สูงขึ้นอย่างมาก

ข้อมูลเสียง HDMI


HDMI จะมีการส่งข้อมูลเสียงในระดับถึง 192 กิโลเฮิรตซ์ และมีการ Sample แบบ 24 บิต ซึ่งเป็นระดับเสียงเดียวกับที่ใช้ในระบบเดียว Dolby Digital ที่ใช้ตามโรงภาพยนตร์ที่เดียว


ข้อมูลภาพ HDMI

HDMI เวอร์ชัน 1.0 ซึ่งเป็นเวอร์ชันแรก จะมีความเร็วในการส่งสัญญาณข้อมูลภาพอยู่ที่ 165 เมกะเฮิรตซ์ โดยสามารถรองรับสัญญาณภาพแบบ High-Definition ที่ความละเอียดสูงถึง 1080p ที่ 60 เฮิรตซ์ ได้ (WUXGA) แต่ถ้าต้องการความละเอียดที่สูงมากกว่านี้ก็จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน HDMI ที่มีเวอร์ชันใหม่มากขึ้น โดยบางรุ่นสามารถรอบรับ ได้ถึง 340 เมกะเฮิรตซ์ และมีสามารถส่งสัญญาณภาพที่ความละเอียดระดับ 2560 x 1600p (WQXGA)

อุปกรณ์ในปัจจุบันที่รองรับมาตราฐาน HDMI

HDTVs
Blu-ray Disc players
Multimedia PCs
Gaming systems
Digital camcorders and more.

การกำจัดหญ้าในไร่สับปะรด 2


หญ้าสาปงู บางที่เรียก หญ้าใบพริก  หญ้าเจดี  หญ้าเถาเครือ 
เป็นวัชพืชอันตรายในไร่สับปะรด   สารเคมีที่ใช้ในไร่สับปะรด  ไม่สามารถกำจัดได้
หากต้องใช้วิธีพิเศษ   
หญ้าสาปงูขณะยังเล็กก็เริ่มออกดอก
หากหญ้าต้นยังเล็ก  ก็ใช้  โบมาซิล   1  กก. ผสม ไดยูรอน  2  กก.  ปุ๋ย 21-0-0    20  กก.  ผสมน้ำ 1000 ลิตร  แล้วเติ่มสารเพิ่มประสิทธิ์ภาพยาลงไปด้วย  พ่นให้ชุ่มเปียกทั้งต้นต้นภาษาชาวบ้านบอกพ่นให้หมาลุยเปียก  

ถ้าหญ้าต้นใหญ่แล้วคุมสับปะรดอาจต้องพ่น  2  ครั้ง โดยใช้  อามีทรีน  2  กก.  ไดยูรอน 1 กก ผสม น้ำ  1000  ลิตร แล้วเติมสาร  2,4-ดี  (โซเดียม ซอล)หรือที่ชาวบ้านเรียก ช้างแดง ซึ่งมี 2 ชนิด คือผงกับน้ำ)ลง 1-2 ช้อนแกงคือหญ้าหนามากก็ 2ช้อน ห้ามเติมสาร เพิ่มประสิทธ์ภาพหรือสารจับใบ
เพราะจะเป็นอันตรายต่อต้นสับปะรด อย่าให้สารลงยอดสับประลดคือพ่นแบบเปียกเฉพาะหญ้าหากโชกเกินไปสับปะรดจะหยุดการเจริญเติบโตและถ้าเติมสาร  2-4 ดีมากไปสับปะรดจะตายได้
หลังจากหญ้าตายแล้วจึงใช้สารแบบแรกพ่นคุมอีกที

พ่นสารขณะหญ้ายังเล็กจะประหยัดงบในกระเป๋านะครับ

การกำจัดหญ้าในไร่สับปะะรด


หญ้าสาปม่วง  
           ถือเป็นวัชพื้ชที่ปราบยากตัวหนึ่งในบรรดาหญ้าประเภทใบกว้าง   ด้วยกันเนื่องจากเป็นวัชพื้ชที่มีการขยายพันธ์ได้รวดเร็ว  และเป็นหญ้าอายุการขยายพันธ์สั่น  แค่ขึ้นเหนือดินเพียงเล็กน้อยก็ออกดอกขยายพันธ์แล้ว
           การกะจัดต้องกระทำขณะหญ้ายังต้นเล็กอยู่  ถ้าใหญ่แล้วจะต้องเพิ่มปริมาณยา
การกำจัดแบบเทคนิคพิเศษ  คือ  ใช้ปุ๋ยเคมี 21-0-0  ปริมาณ  50  กิโลกรัม  บวก ไดยูรอน  1  กิโลกรัม  อามีทรีน  2  กิโลกรัม  ผสมน้ำ  1000   ลิตร  พ่นให้ทั่วต้นขณะแดดออก  จะแห้งตายทันที  แต่จะไม่คุม
การกำจัดแบบปกติ  จะใช้  ไดยูรอน  2 กิโลกรัม  อามีทรีน  2  กิโลกรัม  ปุ๋ย 21-0-0  20  กิโลกรัมผสมสารจับใบ  5  ลิตร  ผสมน้ำ  1000  ลิตร  พ่นให้ทั่วต้นวัชพืช และให้ลงดินเพื่อเป็นการคุมไปด้วยหากหญ้าหน่าแน่นต้องพ่นซ้ำหลังหญ้ารุ่นแรกตาย
หญ้าสาปม่วง เป็นหญ้าปริมาณดอกมากเป็นพิเศษจึงต้องพ่นแบบชุมลึกมากกว่าหญ้าปกติมิฉะนั้นจะคุมไม่อยู่

วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2558

โรคเอ็นอักเสบ


โรคเอ็นอักเสบ (Tendinitis) เป็นโรคที่พบได้บ่อย ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดบริเวณตำแหน่งของเส้นเอ็นที่เกิดการอักเสบขึ้น มักเป็นที่บริเวณหัวไหล่ ข้อศอก ข้อเข่า แต่ก็อาจเกิดขึ้นที่บริเวณข้อสะโพก ข้อเท้า และข้อมือ ได้เช่นกัน

โรคเอ็นอักเสบที่รู้จักกันดีมีชื่อเรียกเฉพาะ ได้แก่ tennis elbow, golfer's elbow, pitcher's shoulder, swimmer's shoulder และ jumper's knee

สาเหตุของโรค

สาเหตุที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เกิดโรคเอ็นอักเสบ คือภยันตรายต่อเส้นเอ็น การกระทบกระแทก หรือการใช้งานบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นจากการทำงาน จากการเล่นกีฬา หรือจากอุบัติเหตุอาจพบว่าเกิดขึ้นในโรคข้ออักเสบทั่วร่างกาย เช่น ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

นักว่ายน้ำ นักเทนนิส นักกอล์ฟ มีโอกาสเกิดโรคเอ็นอักเสบบริเวณหัวไหล่ แขน ข้อศอก มากกว่าปกติ ในขณะที่นักฟุตบอล นักบาสเก็ตบอล นักวิ่ง จะเกิดโรคเอ็นอักเสบบริเวณขา เข่า และเท้า

ผู้สูงอายุมีโอกาสเกิดโรคเอ็นอักเสบมากขึ้น

อาการของโรค

ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บปวดบริเวณ เส้นเอ็นที่เกิดการอักเสบ ความรุนแรงแตกต่างกันไป อาจปวดเพียงเล็กน้อย หรือปวดมากจนทนไม่ได้ ในรายที่อาการรุนแรง เส้นเอ็นที่อักเสบเกิดฉีกขาด จะมีอาการที่รุนแรงมากที่สุด

โรค Tennis elbow จะ ปวดบริเวณข้อศอกเวลาขยับหมุนข้อศอก หรือเวลากำสิ่งของในมือ โรคAchilles tendinitis จะปวดบริเวณเอ็นร้อยหวาย โรค Patellar tendinitis จะปวดบริเวณสะบ้า ในขณะที่ Rotator cuff tendinitis จะปวดปริเวณหัวไหล่

การวินิจฉัยโรค

จากประวัติอาการ ตำแหน่ง ที่เกิดการอักเสบ และตรวจร่างกายระบบกระดูกและข้อโดยละเอียด การตรวจภาพรังสีมักจะไม่ช่วยในการวินิจฉัยโรคแต่อย่างใด แต่อาจช่วยในการวินิจฉัยแยกโรคที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการได้ในบางกรณี หากสงสัยว่าเกิดจากโรคข้ออักเสบ
รูมาตอยด์ แพทย์อาจพิจารณาตรวจเลือดเพิ่มเติม

แนวทางการรักษาโรค

หลักสำคัญคือ ระงับอาการปวด และลดการอักเสบที่เกิดขึ้น ผู้ ป่วยต้องพักผ่อนให้เต็มที่ งดใช้งานข้อบริเวณที่เส้นเอ็นอักเสบ ควรประคบด้วยความเย็นเป็นครั้งคราว การใช้ยาแก้ปวดช่วยบรรเทาอาการได้ตามสมควร การใช้ยาลดการอักเสบช่วยให้อาการดีขึ้น

ในรายที่เป็นมาก แพทย์อาจพิจารณาฉีดยา Corticosteroid เข้า ไปรอบๆ บริเวณเส้นเอ็นที่เกิดการอักเสบ ช่วยลดการอักเสบและบรรเทาอาการปวดได้มาก แต่ทั้งนี้ไม่ควรฉีดบ่อย จะทำให้เส้นเอ็นไม่แข็งแรงและอาจฉีกขาดได้

กายภาพบำบัด และการออกกำลังกาย เพื่อเสริมกำลังของกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นแข็งแรงขึ้น

การผ่าตัด ในกรณีที่เส้นเอ็นเกิดการฉีกขาด เทคนิดการซ่อมเส้นเอ็นทำได้หลายแบบ รวมทั้งการผ่าตัดเพื่อเสริมความแข็งแรงของเส้นเอ็นอีกด้วย