ลักใช้ไฟฟ้ามีความผิดฐานลักทรัพย์
ถ้าถามว่าลักใช้ไฟฟ้าจะมีความผิดฐานลักทรัพย์หรือไม่ เพราะไฟฟ้าไม่มีสัญฐานรูปร่าง จับต้องไม่ได้เหมือน ทองคำ รถยนต์
ฯลฯแถมเวลาขึ้นศาลก็ไม่มีของกลางไปขึ้นศาลด้วยแต่ศาลก็เคยตัดสินมีความผิดฐานลักทรัพย์มาแล้วดั่งตัวอย่างคำตัดสินนี้
โจทก์ฟ้องว่า
จำเลยกับจำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 699/2542 ของศาลชั้นต้น ได้ร่วมกันลักเอากระแสไฟฟ้า
คิดเป็นมูลค่า 2,847 บาท ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอสังขะ
ผู้เสียหาย ไปใช้ประโยชน์โดยทุจริต
โดยจำเลยกับพวกร่วมกันแก้ไขดัดแปลงมิเตอร์ไฟฟ้าชำระรุดเสียหายไม่เคลื่อนที่
แล้วจำเลยกับพวกได้ใช้ไฟฟ้าโดยไม่เสียค่าไฟฟ้าให้แก่ผู้เสียหาย
เหตุเหิดที่ตำบลเทพรักษา อำเภอสัง ขะ จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาวันที่ 16 กรกฎาคม 2547 เจ้าพนักงานจับจำเลยได้
ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 335
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า
ไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ แต่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ จำคุก 1 ปี
จำเลยอุทธรณ์และฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่า
จำเลยกับพวกลักเอากระแสไฟฟ้าไปใช้ด้วยการทำให้มิเตอร์ไฟฟ้าไม่หมุนเพื่อให้
ตัวเลขวัดการใช้ไฟฟ้าไม่เคลื่อนที่
ซึ่งก็ตรงกับข้อเท็จจริงตามรายงานการสืบเสาะและพินิจ
พฤติการณ์ดังกล่าวย่อมแสดงว่าจำเลยกระทำโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเอากระแสไฟฟ้า
ของผู้เสียหายไปใช้โดยไม่เสียค่าไฟฟ้าเป็นสำคัญ
การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์
และตรงตามคำบรรยายฟ้องและคำขอให้ลงโทษของโจทก์แล้ว
กรณีจึงไม่จำต้องพิจารณาต่อไปว่าการกระทำของจำเลยจะเป็นความผิดฐานร่วมกันทำ
ให้เสียทรัพย์หรือไม่ (คำพิพากษาฎีกาที่ 481/2549)
จะเห็นได้ว่า
ครั้งแรกศาลตัดสินไม่เป็นความผิดฐานลักทรัพย์
เพราะไม่มีของกลางในทางคดีจึงมีแต่วิธีพิสูจน์เท่านั้น
แม้แต่เวลาที่ใช้ไฟฟ้าก็พิสูจน์ไม่ได้อีกแระว่าลักไปจำนวนเท่าใด เวลาเขาลักไปก็ไม่ได้ผ่านมิเตอร์เสียด้วย การปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะรู้ได้ก็ต้องใช้มิเตอร์วัดเท่านั้น
แต่ก็ไม่มีขโมยคนไหนเอามิเตอร์ไปวัดเวลาลักไฟฟ้าใช้แน่นอน
แต่คำว่าทรัพย์ทางพจนานุกรมไทย
ให้ความหมายไว้ว่า ทรัพย์ คือ
เงินตรา สมบัติพัสถาน สิ่งมีค่า
และทรัพย์สิน หมายถึงวัตถุที่มีรูปร่างและไม่มีรูปร่าง ซึ่งอาจมีราคาและถือเอาเป็นกรรมสิทธิ์ได้
เห็นได้ไฟฟ้าเป็นทรัพย์สินที่ไม่มีรูปร่างแต่มีราคาและถือเป็นกรรมสิทธิ์ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น