10 อันดับสุดยอดสุนัขเฝ้าบ้าน |
|
|
|
"10 อันดับสุดยอดสุนัขเฝ้าบ้าน " จะมีสายพันธุ์อะไรบ้าง ไปชมพร้อมๆกัน และที่สำคัญห้ามพลาดเด็ดขาดเลยครับ |
|
|
อันดับสิบ "พูเดิล" สุนัขสายพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในฝรั่งเศสเดิมทีเดียวเป็นสุนัขล่าสัตว์ใช้เก็บนกที่ยิงตกแต่เนื่องจากสุนัขส่วนหนึ่งเป็นที่นิยมของราชวงศ์ทำให้ถูกนำไปพัฒนาพันธุ์ในราชสำนักจนเหมาะที่จะเลี้ยงในบ้านเรือนได้รับการยอมรับกันว่าเป็นสุนัขที่ฉลาดที่สุดในโลกสายพันธุ์หนึ่งจะเห็นได้จากคณะละครสัตว์หรือคณะแสดงมายากลก็จะมีสุนัขพูเดิลเป็นตัวเอกอยู่เสมอในแง่ความสามารถในการเฝ้าบ้านแล้วส่วนตัวผมยอมรับว่าไม่เป็นรองใครเพราะมันเห่าเก่งมากจนบางคนว่าน่ารำคาญเสียด้วยซ้ำไปแต่สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่ฉลาดผมคิดว่าน่าจะเป็นสุนัขสายพันธุ์ต่างประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในเมืองไทย |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อันดับที่เก้า "สุนัขแอร์รีเดลเทอร์เรีย (Airedale Terrier)" สุนัขพันธุ์นี้มีประชากรมากที่สุดในสุนัขวงศ์เทอร์เรียจึงได้รับสมญานามว่า "King of Terrier" สุนัขพันธุ์ได้รับการยกย่องว่ามีความฉลาดอยู่ในชั้นแนวหน้าของสายพันธุ์สุนัขทั้งปวง อีกทั้งมีความเก่งกล้าสามารถในหลายด้านทำให้ในสนามการแข่งกีฬาความว่องไว (Agility) การเชื่อฟังคำสั่ง (Obedience), จานร่อนและกีฬาอื่นๆจะมีสุนัขสายพันธุ์นี้เข้าแข่งขันเป็นจำนวนมาก แม้เป็นสุนัขขนาดเล็กแต่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นสุนัขที่มีทักษะการเป็นสุนัขปกป้องบ้านเรือนและเจ้าของอยู่ในชั้นแนวหน้าสายพันธุ์หนึ่ง เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีความรักเจ้าของมีการเชื่อฟังคำสั่งได้ดีจึงถูกโหวตให้อยู่ในสุดยอดสุนัขเฝ้าบ้านครับ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อันดับที่แปด "ชิวาวา" ครับไม่น่าเชื่อสุนัขจิ๋วตัวเล็กที่สุดของโลกจะได้โหวตติดท็อปเทนสุดยอดสุนัขเฝ้าบ้านกับเค้าด้วย แต่ถ้าผมโหวตผมก็จะโหวตให้เหมือนกันครับเพราะผมว่ามันสามารถเลี้ยงในตัวบ้านได้ไม่มีกลิ่นตัวรุนแรงไม่มีขนร่วงมากแล้วก็ขับถ่ายน้อยสอนให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทางได้ ถ้าเราเอาสุนัขขนาดใหญ่มาเลี้ยงในตัวบ้านคงทำความสะอาดกันไม่หวาดไม่ไหวเจ้าชิวาวาแม้จะตัวเล็กแต่มันก็เห่าเตือนภัยให้เจ้าของได้ทำให้เป็นสุนัขยอดนิยมในไต้หวัน ญี่ปุ่น อิตาลี รวมทั้งเมืองไทยแต่สำหรับในเมืองไทยเรานิยมสุนัขขนาดเล็กจึงไปเล่นสุนัขสายไต้หวันสายญี่ปุ่นซึ่งมักเกิดจากการผสมเลือดชิดมาก ผมสังเกตว่าสุนัขเหล่านี้จิตประสาทและความแข็งแรงจะไม่ดีเท่าสายอเมริกันบางคนจึงรู้สึกขัดแย้งว่ามันไม่ค่อยเห่าเท่าไหร่ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อันดับที่เจ็ด "สุนัข Cairn Terrier" สุนัขพันธุ์นี้มีถิ่นกำเนิดในสก็อตแลนด์เป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่หน้าตาบ้องแบ๊วน่ารักขนยุ่งๆเป็นสุนัขตัวเล็กที่ซุกซนและอยู่ไม่ค่อยสุข ผมยอมรับว่าไม่ค่อยมีความรู้เรื่องสุนัขพันธุ์นี้แต่ฝรั่งบอกว่ามันจิ๋วแต่แจ๋วตัวเล็กแต่ไม่กลัวใคร มีความรักบ้านหวงเจ้าของสามารถเลี้ยงไว้เห่าเตือนภัยได้ เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่นของลูกได้ดีสุนัขพันธุ์มีบรรพบุรุษร่วมกับเจ้าเวสตี๊ ในเมืองไทยไม่ค่อยเห็นสุนัขสายพันธุ์นี้มากนัก |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อันดับที่หก "ยอร์กเชียเทอร์เรีย" สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่ได้รับโหวตให้เป็นสุนัขยอดนิยมอันดับสองของอเมริกา มีสมญานามว่า "ยอร์กกี้ (Yorkie)" สุนัขตัวนี้แม้จะตัวเล็กมากแต่มันก็สามารถเตือนภัยให้เจ้าของได้เพราะมันจะเห่าเก่งทำให้เจ้าของรู้ตัวเมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามาหรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในบริเวณบ้าน สุนัขพันธุ์นี้เพื่อนบ้านผมเลี้ยงไว้ตัวหนึ่งผมเห็นด้วยว่ามันเป็นยามที่ดีมากเพราะมันจะวิ่งอยู่ในตัวบ้านเวลามีอะไรแปลกๆ ใกล้บริเวณบ้านมันก็วิ่งไปเห่าทำให้เจ้าของรู้ตัว การที่มันอยู่ในตัวบ้านเจ้าหัวขโมยจะทำอันตรายอะไรมันก็ยากมันจึงเหมือนสัญญาณเตือนภัยที่มีชีวิต ในหลายประเทศก็มีความนิยมอย่างกว้างขวางทั้งในสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่นแล้วเมืองไทยก็มีความนิยมมากเพราะมันฉลาดและน่ารักอย่างมาก |
|
|
|
|
|
|
|
5 | สุนัขมินิเจอร์ชเน๊าเซ่อร์ |
|
|
|
อันดับที่ห้า "สุนัขมินิเจอร์ชเน๊าเซ่อร์" สุนัขพันุ์นี้ติดท็อปเทนสุนัขที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาเลยในเมืองไทยก็มีความนิยมอย่างมากเช่นกันครั้งหนึ่งเคยมีราคาแพงมากแต่ตอนนี้ไม่แพงมากนัก สุนัขพันธุ์นี้เห่าเก่งจิตประสาทว่องไวแล้วก็ฉลาดเรียนรู้อะไรได้ง่ายแต่ในเมืองไทยมีข้อเสียคือต้องมีการดูแลเรื่องขนเป็นอย่างดีมิฉะนั้นจะเป็นสุนัขที่สกปรกได้ง่าย สุนัขสายพันธุ์นี้ตัวเล็กแต่แข็งแรงจิตประสาทว่องไวสามารถเห่าเตือนเจ้าของได้เมื่อมีภัยมาถึง การที่เป็นสุนัขที่ตัวค่อนข้างเล็กจึงสามารถเลี้ยงในบ้านทาวเฮ้า, คอนโด, อพาทเม้นหรือในบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่มากได้เป็นอย่างดี |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อันดับที่สี่ "เวสไฮแลนด์ไวท์เทอร์เรีย" หรือ "เจ้าเวสตี๊ (Westie)" สุนัขสายพันธุ์นี้ก็มีขนาดใกล้เคียงกับสก็อตติชเทอร์เรีย สุนัขตัวนี้เพื่อนสนิทผมเลี้ยงอยู่ตัวหนึ่งมันแสบมากใครไปใกล้นายมันมันจะเห่าแล้วก็จะกัดถ้ายังไม่ยอมถอยจากนายของมัน ตัวมันเตี้ยเล็กแต่วิ่งเร็วมากดูน่ารักแต่มันหวงของทุกอย่างของมันอย่างมากโดยเฉพาะชามข้าว ฝรั่งให้ความเห็นว่ามันเป็นสุนัขที่ฉลาดเข้ากับสมาชิกทุกเพศทุกวัยได้ดี สามารถเลี้ยงเป็นเพื่อนออกกำลังกายแล้วก็สามารถเห่าเตือนภัยให้เจ้าของได้จึงเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมอย่างสูง สุนัขสายพันธุ์นี้ก็ได้รับความนิยมในบ้านเราอย่างมากเช่นกัน |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
อันดับที่สามคือ "สก็อตติชเทอร์เรีย" ผมยอมรับว่าส่วนตัวแล้วรู้จักสุนัขสายพันธุ์นี้น้อยมากจำได้ว่ามันเป็นสุนัขตัวเตี้ยตัวนิดเดียว แต่ฝรั่งเค้าให้ฉายาสุนัขพันธุ์นี้ว่าจอมอึดมหากาฬ (Little Diehard) ฝรั่งเค้าให้ความเห็นกันว่ามันฉลาดเป็นกรดแล้วก็มีความจงรักภักดีกับเจ้าของอย่างมากมันจะคอยระแวดระวังภัยแล้วเตือนให้เจ้าของรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา อย่างเวลาออกไปเดินเล่นในป่ามันจะวิ่งออกหน้าเพื่อสำรวจเส้นทางให้เจ้าของถ้าเจออันตรายมันก็จะเตือนให้เจ้าของรู้ เมื่ออยู่ในสถานการณ์คับขันมันก็พร้อมเผชิญหน้าศัตรูเพื่อปกป้องเจ้าของ เป็นสัตว์เลี้ยงที่ยอดเยี่ยมแล้วยังสามารถใช้จับหนูได้อีกด้วยแม้จะตัวเล็กหนักเพียง 7-9 กิโลกรัมแต่มันแข็งแรงอย่างมากเลยทีเดียว |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สุนัขที่ได้รับการโหวตมากเป็นอันดับที่สองคือ "สุนัขเยอรมันเชพเพรอด" ซึ่งผู้โหวตส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าเลือกสุนัขพันธุ์นี้เป็นสุดยอดสุนัขเฝ้าบ้านเพราะเป็นสุนัขที่ฉลาดตัวใหญ่เป็นที่น่าเกรงขามของผู้บุกรุกแต่เป็นสุนัขที่มีจิตประสาทดีเข้ากับทั้งเด็กและคนชราในครอบครัวได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นสุนัขที่ฝึกฝนได้ง่ายที่สุดสายพันธุ์หนึ่งจึงถูกเลือกใช้ในราชการมากที่สุดของโลก ความตื่นตัวดีและเห่าเสียงดังสร้างความหวาดกลัวให้ผู้บุกรุกแล้วสุนัขสายพันธุ์นี้ยังเป็นเพื่อนในการออกกำลังกายกับเจ้าของได้เป็นอย่างดี สำหรับในเมืองไทยสุนัขพันธุ์นี้เคยได้รับความนิยมอย่างมากในอดีตแต่เนื่องจากการเพาะพันธุ์สุนัขเกรดสูงมีกฎกติกามารยาทค่อนข้างมากนักธุรกิจสัตว์เลี้ยงในเมืองไทยจึงไม่นิยมเพาะพันธุ์สุนัขสายพันธุ์นี้เชิงการค้าทำให้การเลี้ยงจำกัดอยู่ในกลุ่มแฟนพันธุ์อย่างแท้จริง |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
สุนัขที่ได้รับการโหวตให้เป็นสุดยอดสุนัขเฝ้าบ้านคือ "สุนัขร็อตไวเลอร์" ซึ่งเป็นสุนัขที่ในสมัยโบราณกองทัพโรมันใช้ในราชกาลสงครามเพราะมีความแข็งแรงซื่อสัตย์อดทนแล้วยังมีโครงสร้างขนาดใหญ่น่าเกรงขาม สุนัขพันธุ์นี้มีความแข็งแรงฝึกง่ายมีจิตประสาทว่องไวมีความกระตือรือร้นสูงแข็งแรงเลี้ยงง่ายแล้วก็ฝึกฝนได้ง่าย ในยุคปัจจุบันสุนัขสายพันธุ์นี้ก็เป็นสุนัขที่ถูกใช้ในราชกาลทหารและใช้คุมนักโทษในคุกแม้จะเป็นสุนัขขนาดใหญ่แต่ก็มีความสามารถปรับตัวเข้ากับบ้านขนาดเล็กหรือบางตัวสามารถอยู่ตามอพาทเม้นได้เพียงแต่ต้องพาไปออกกำลังกายนอกบ้านบ้าง แต่เนื่องจากสุนัขสายพันธุ์นี้หากเป็นสายพันธุ์ที่สายเลือดไม่ดีพออาจมีความก้าวร้าวจนเป็นอันตรายกับเด็กและคนแก่ได้จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการฝึกพัฒนาการด้านสังคมตังแต่วัยเยาว์ (Socialization) ในเมืองไทยสุนัขพันธุ์นี้ก็มีความนิยมสูงมากแม้จะมีข่าวร้ายเชิงลบอยู่เสมอ |
|
|
|
|
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น